เร่งสอบสวนจับนักธุรกิจเรียกค่าไถ่ คาดปมขัดแย้งธุรกิจ

อาชญากรรม
30 ก.ค. 62
19:23
1,146
Logo Thai PBS
เร่งสอบสวนจับนักธุรกิจเรียกค่าไถ่ คาดปมขัดแย้งธุรกิจ
เจ้าหน้าที่สันนิษฐานสาเหตุของการลักพาตัวเรียกค่าไถ่นายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน อาจเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งจาก 3 ธุรกิจ โดยผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเตรียมแถลงสรุปเหตุการณ์พรุ่งนี้ เวลา 09.00 น.

วันนี้ (30 ก.ค.2562) จากกรณีนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ประธานสมาคมส่งออกสัตว์เชียงแสน ถูกจับตัวเรียกค่าไถ่ 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ก.ค.ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว พบตัวนายสิงห์แก้ว วงศ์ใหญ่ ในสภาพอ่อนล้าและไม่พบผู้ต้องสงสัย ได้สอบถามนายสิงห์แก้ว ระบุว่า เดินทางไปยัง สปป.ลาว เพื่อเจรจาธุรกิจกับหุ้นส่วนที่จะร่วมกันสร้างโรงฆ่าสัตว์ใน สปป.ลาว โดยข้ามแดนทางเรือ ไปขึ้นที่ท่าเรือคิงส์โรมัน

จากนั้นมีนายสวาท สัญชาติลาว นำรถมารับนายสิงห์แก้ว เพื่อพาไปพบนายจุ่ม และจะพาไปพบกับนักธุรกิจจากจีน (สิบสองปันนา) แต่ระหว่างเดินทางได้มีชาวจีน ขับรถปาดหน้าชิงเอาตัวนายสิงห์แก้วไป ก่อนส่งวีดิโอเพื่อเรียกค่าไถ่ให้ญาติของรายสิงก์แก้ว


เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสิงห์แก้ว ไปชี้จุดเกิดเหตุจนถึงเวลาประมาณ 14.00 น. จากนั้นได้นำตัวกลับไปยังกองบัญชาการป้องกันความสงบเมืองต้นผึ้ง เพื่อพบกับญาติและเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย ส่วนการส่งตัวนายสิงห์แก้วกลับประเทศไทย จะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง เพราะต้องทำการสอบสวนให้เสร็จสิ้นก่อน และให้เป็นไปตามขั้นตอนของการประสานงานระหว่างประเทศ ซึ่งยังไม่ได้กำหนดวันเวลาและสถานที่ในการส่งตัว


ขณะที่แนวทางการสอบสวนสันนิษฐานว่าสาเหตุของการลักพาตัวเรียกค่าไถ่ อาจเกี่ยวข้องกับ 3 ธุรกิจ ได้แก่ การซื้อขายน้ำตาลที่ต้องมีการจัดหาไปให้กับผู้ซื้อ ที่ผ่านมาเกิดปัญหาจนมีการฟ้องร้องกัน และธุรกิจการซื้อขายต้นไม้ใหญ่ไม้ดอกไม้ประดับมูลค่าประมาณ 300,000 บาท รวมถึงธุรกิจสร้างโรงฆ่าสัตว์ในประเทศลาว ที่มีการลงนามร่วมก่อสร้างกันเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา


ทั้งนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ได้เดินทางไปถึงด่านตรวจคนเข้าเมืองเชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อประชุมสรุปสถานการณ์กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง โดย พล.ต.ท.สมพงษ์ บอกว่า จะแถลงสรุปเหตุการณ์ให้ทราบหลังการประชุมพรุ่งนี้ เวลา 09.00 น.

ปมค้าระหว่างประเทศ ไม่เคยพบลักพาตัวเรียกค่าไถ่

ด้าน อนุรัตน์ อินทร ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ปกติการทำการค้าชายแดนจะเป็นความร่วมมือระหว่างหอการค้าของแต่ละประเทศที่แลกเปลี่ยนข้อมูล และมีความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างกัน ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาถึงขั้นลักพาตัวเรียกค่าไถ่ สำหรับนายสิงห์แก้วไม่ได้เป็นสมาชิกของทางหอการค้า และเข้าไปทำธุรกิจกันเองระหว่างผู้ประกอบการ


นายสิงห์แก้ว มีเชื้อสายไทย-จีน-ไทลื้อ สามารถสื่อสารด้วยภาษาไทลื้อ รวมทั้งคุ้นเคยกับนักธุรกิจประเทศเพื่อนบ้าน จึงหันมาประกอบธุรกิจส่งออก โค กระบือ และสุกร โดยข้อมูลของด่านกักกันสัตว์เชียงแสน พบว่า มีบริษัทส่งออกโค กระบือ และสุกร มากถึง 17 บริษัท โดยปีนี้ ตั้งแต่เดือน ม.ค. - ก.ค. มีการส่งออกโค เกือบ 60,000 ตัว กระบือ 17,000 ตัว และสุกร 12,000 ตัว เฉพาะนายสิงห์แก้ว ส่งออกกระบือ 58 ตัว โค 911 ตัว และสุกร 80 ตัว และระยะหลังนายสิงห์แก้ว หันมาทำธุรกิจโรงฆ่าสัตว์ในเมืองต้นผึ้ง ประเทศลาว ก่อนจะถูกจับตัวเรียกค่าไถ่

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ด่วน! เจอตัวนักธุรกิจไทยถูกอุ้มเรียกค่าไถ่แล้ว

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง