"ผบ.ตร."เคลียร์ทุกปมปัดปิดกั้นสื่อ-ลั่นอยู่ตรงกลางคน 2 ฝั่ง

การเมือง
19 ต.ค. 63
16:20
2,217
Logo Thai PBS
"ผบ.ตร."เคลียร์ทุกปมปัดปิดกั้นสื่อ-ลั่นอยู่ตรงกลางคน 2 ฝั่ง
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ตอบทุกปม ปัดไม่มีนโยบายปิดสื่อ รอหลักเกณฑ์ขั้นตอนบังคับใช้กฎหมาย ชี้ไลฟ์ชุมนุม รายงานภาคสนามยังทำได้แต่ต้องพึงระวังการนำเสนอที่ส่อทำให้เกิดความสับสนวุ่นวาย ลั่นต้องดูแลคน 2 ฝั่งอยู่ตรงกลางต้องทำตามหน้าที่

วันนี้ (19 ต.ค.2563) พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีการออกคำสั่งฉบับที่ 4 เรื่องการระงับการออกอากาศสื่อ 4 แห่งว่า การออกคำสั่งดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนกระบวนการมอบหมายให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) รวมถึงกสทช. ดำเนินการกำหนดหลักเกณฑ์ข้อกำหนดต่างๆ สำหรับใช้เป็นเกณฑ์ในการสั่งระงับเนื้อหาบางส่วนของสื่อที่มีการเผยแพร่ในช่วงสถานการณ์การชุมนุมที่จะก่อให้เกิดความไม่สงบ

ประกาศฉบับที่ 4 เป็นการให้จัดการข้อมูลข่าวสารบางส่วน ถึงวันนี้ยังไม่มีนโยบายปิดสื่อ ไม่มีการดำเนินการใดๆ เพราะต้องออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ขั้นตอน เพื่อให้หน่วยบังคับใช้กฎหมายได้ทำเป็นแนวทาง ทิศทางเดียวกัน

พล.ต.อ.สุวัฒน์ กล่าวว่า หลักเกณฑ์ยังไม่ออกมา ทุกอย่างเหมือนเดิม การดำเนินการต้องรอว่าเมื่อไหร่จึงจะบังคับใช้ ถ้าข่าวสารชิ้นไหน คลิปไหนหรือบุคคลใดที่ไปโพสต์ในโซเซียลก็จัดการกับคนๆนั้น ดำดดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานนั้นตามกฎหมาย

อ่านข่าวเพิ่ม สื่อยืนยันทำหน้าที่ต่อ หลังประกาศคำสั่งสอบสื่อรายงานการชุมนุม

ไลฟ์ชุมนุมทำได้-อย่ารายงานทำให้สับสนยั่วยุ

ทั้งนี้สื่อยังไปไลฟ์ รายงานข่าวภาคสนามทำได้ และเป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน แต่ที่เป็นปัญหา เช่น มีการถ่ายคลิป ไลฟ์ เช่น  เห็นผู้ชุมนุมกำลังวิ่งไปทิศทางทิศทางหนึ่ง เช่น คนไลฟ์อ้างบอกกำลังถูกไล่ยิงจากเจ้าหน้าที่ เป็นการเอาข้อเท็จริงผสมผมสมกับการคาดการณ์ ถ้าผลจากตรงนี้ทำให้เกิดความรุนแรง และทำให้ปะทะ ถือเป็นการชี้นำไปทางเข้าใจผิด ต้อมีมาตรการ เช่นทำหนังสือให้มาชี้แจง และถ้ามีคลิปจะต้องลบออก

ผบ.ตร.กล่าวอีกว่า เรียกสื่อรายดังกล่าวหรือต้นสังกัดมาชี้แจง ซึ่งตำรวจจะพิจารณาถึงเจตนาของผู้สื่อข่าวท่านนั้น หากมีความพยายามจะแก้ไขเนื้อหาให้ถูกต้อง ก็จะถือว่าไม่มีความผิด แต่หากกระทำผิดซ้ำๆเดิม ก็จะถูกนำมาพิจารณาเพื่อดำเนินการเช่นกัน

ขอย้ำว่าในฐานะหัวหน้าผู้รับผิดชอบกอร.ฉ. เมื่อมีหน้าที่ต้องทำ เราต้องทำตามกฎหมาย เมื่อหลังหน่วยงานรายงานมาว่ามีนำเสนอข้อมูลข่าวที่จะนำไปสู่ความสับสนและอาจนำไปสู่ความวุ่นวายและก่อความไม่สงบเรียบร้อย

 

ทั้งนี้การบังคับใช้กฎหมายในประเด็นดังกล่าวก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เนื่องจากข่าวดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปในสื่อออนไลน์อย่างรวดเร็ว จึงขอให้สื่อมวลชนพึงระมัดระวังการนำเสนอข่าวในสภาวะที่ไม่ปกติ และจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษมาบังคับ รวมถึงอยากให้ทุกคนเข้าใจ ว่าเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องดูแลทั้งสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย การบังคับใช้กฎหมายเราเลือกไม่ได้ ว่าจะบังคับอันนั้นไม่บังคับอันนี้ แต่ใช้วิธีการที่ตามความเหมาะสมกับสถานการณ์ ในเวลานั้น และแต่ละช่วงเวลาก็ต่างกัน

เราดูแลคน 2 ฝั่งทั้งที่ฝั่งเห็นด้วยไม่เห็นด้วยเราอยู่ตรงกลาง ทำอะไรไป ก็ทราบ ถ้าทำแรง เบา หนัก จะมีผลไม่ว่าจะด้านใดด้านหนึ่ง เหรียญมี 2 ด้าน ถึงวันหนึ่ง ก็หวังว่าพี่น้องประชาชนคงเข้าใจถ้าว่าเราอยู่ตรงกลางที่ต้องทำหน้าที่ ถ้าเราไม่ทำก็ไม่มีใครทำ 

ขอศาลออกหมายจับมือทุบป้อมจราจรบางนา

ส่วนกรณีที่มีกลุ่มบุคคลเข้าไปขว้างปาทำลายป้อมตำรวจ บริเวณแยกบางนา เมื่อวานนี้ (18 ต.ค.) จากการตรวจสอบพบว่า เป็นนักศึกษาจาก 2 สถาบัน ที่ร่วมเข้ามาชุมนุมในพื้นที่ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอ ฮอล์ทำให้มึนเมา จนทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกัน ก่อนไปทำลายทรัพย์สินของทางราชการ และก่อนหน้านี้ 1 วัน ก็เคยมีความขัดแย้งกันในลักษณะดังกล่าว และขว้างปาสิ่งของใส่ป้อมตำรวจ แต่ไม่เสียหาย

ไม่ใช่การสร้างสถานการณ์ของเจ้าหน้าที่ตำรวจตามที่มีปรากฏในสื่อโซเชียลมีเดีย เบื้องต้นตำรวจ สน. บางนาทราบตัวผู้กระทำความผิดแล้ว และอยู่ระหว่างขอศาลออกหมายจับ

อ่านข่าวเพิ่ม ทุบกระจก! ป้อมตำรวจ "แยกบางนา" หลังยุติ 2 ทุ่ม

ส่วนกรณีที่กลุ่มผู้ชุมนุมนัดหมายการชุมนุมผ่านแอพพลิเคชั่นเทเลแกรม ตำรวจมีข้อมูลแล้ว และได้ส่งเรื่องให้กระทรวงดิจิทัลฯ และกสทช.พิจารณาดำเนินการแล้ว ขณะที่การชุมนุมในแต่ละวัน ซึ่งมีการนัดรวมพลแบบดาวกระจาย ตำรวจก็จะดูแลการชุมนุมไปตามสถานการณ์ ยืนยันยังไม่มีการยกระดับมาตร การ ป้องปรามผู้ชุมนุมในขณะนี้ ไม่ใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ และเน้นเรื่องความสงบเรียบร้อย อีกทั้งที่ผ่านมาเป็นการชุมนุมแบบกำหนดเวลา จึงส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยรวมไม่มากนัก แต่มีการจัดในหลายพื้นที่ ทำให้มีผลกระทบอีกรูปแบบ ซึ่งไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ขอให้ผู้ชุมนุมทราบว่าการชุมนุมยังถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินซึ่งมีผลอยู่ในขณะนี้

แจงปมตำรวจกินข้าวกล่องไร้คุณภาพ

ส่วนกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพข้าวกล่องของเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนซึ่งมีปริมาณน้อย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็กล่าวว่า ในเรื่องของสวัสดิการตำรวจได้มอบหมายให้กองบัญชาการตำรวจนครบาลและ สำนักงานส่งกำลังบำรุงไปดูแลแล้ว ซึ่งอาหารก็ได้มีการประกวดร้านค้า หากได้อาหารที่ไม่มีคุณภาพก็จำเป็นต้องเปลี่ยนร้านค้า และเตรียมลงไปตรวจเยี่ยมกำลังพลในเร็วๆนี้

ไม่มีการทุจริตเบี้ยเลี้ยงตำรวจอย่างแน่นอน หากพบก็จะดำเนินการอย่างเคร่งครัดโดยขอให้ยึดกรณีทุจริตเบี้ยเลี้ยงตำรวจช่วง COVID-19 มาเป็นตัวอย่าง

นอกจากนี้ยังมีประเด็นภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจชู 3 นิ้ว ต้องขอรอฟังคำชี้แจงของตำรวจนายดังกล่าวก่อน เพราะบางคนอาจทำด้วยความคึกคะนอง บางคนอาจทำด้วยความเห็นด้วย แต่บางคนทำเพื่อลดความรุนแรงหรือลดอารมณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม จึงต้องรอฟังความคิดเห็นก่อน ยังไม่สามารถตัดสินได้ว่าตำรวจนายดังกล่าวทำผิดระเบียบหรือไม่

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

กอร.ฉ.รับเอกสารจริงจ่อแบนเพจสำนักข่าว แต่ยังไม่สั่งปิด

นายกรัฐมนตรี-ชวน หนุน "เปิดสภา" คลี่ปมขัดแย้งการเมือง

ศูนย์ทนายฯ เปิดข้อมูลชุมนุม 5 วัน ดำเนินคดี 80 คน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง