ยุติความสูญเสีย! นายกรัฐมนตรี ตอบปมเหตุผลวิสามัญฯ

ยุติความสูญเสีย! นายกรัฐมนตรี ตอบปมเหตุผลวิสามัญฯ

ยุติความสูญเสีย! นายกรัฐมนตรี ตอบปมเหตุผลวิสามัญฯ

รูปข่าว : ยุติความสูญเสีย! นายกรัฐมนตรี ตอบปมเหตุผลวิสามัญฯ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี แถลงครั้งแรก หลังเหตุการณ์กราดยิงที่จ.นครราชสีมา สรุปผู้เสียชีวิต 27 คนรวมผู้ก่อเหตุ บาดเจ็บ 57 คน พร้อมตอบเหตุผลต้องวิสามัญฆาตกรรม เหตุปะทะหนัก ต้องรักษาชีวิตประชาชนและเจ้าหน้าที่ กำชับเยียวยาทุกคนและดูแลจิตใจ

วันนี้ (9 ก.พ.2563) เวลา 11.50 น.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แถลงข่าวภายหลังตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ และให้กำลังใจญาติของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างเทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา โดยระบุว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้น ได้มีการติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดพร้อมยืนยันว่าการทำงานของทุกหน่วยงาน แต่จำเป็นต้องใช้กำลังในพื้นที่ก่อน ก่อนจะจัดหน่วยงานต่างๆ เข้ามาดูแลสถานการณ์

ต้องใช้กำลังจากเบาไปหาหนัก และดำเนินการอย่างเหมาะสม ไม่ใช่ไม่มีประสิทธิภาพ แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะพื้นที่เกิดเหตุมีหลายชั้น มีซอกมุมจำนวนมาก สำคัญคือต้องพาคนออกมาให้ได้ก่อน พื้นที่มี 6 ชั้น จึงต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชนและเจ้าหน้าที่ การนำอาวุธไปใช้ ต้องระมัดระวัง 

ผมต้องเชื่อมั่นเขา

ขอให้เป็นครั้งเดียว เหตุกราดยิงโคราช 

สถานการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ขอให้เป็นครั้งเดียว ซึ่งต้องวิเคราะห์พฤติกรรมของคนร้ายเพื่อถอดบทเรียน ไม่ว่าใครเสียชีวิตก็เสียใจทั้งนั้น เพราะต้องดูแลคนทั้งประเทศ

ทุกคนมีบทเรียน ถึงแม้จะผ่านสถานการณ์มาหลายครั้ง แต่ครั้งนี้รุนแรงที่สุด จะต้องหามาตรการที่เหมาะสม ทุกอย่างไม่ต้องเกิดอีก และวันนี้ถือว่าทำดี่สุดแล้ว

ต้องแบ่งสถานการณ์เป็นลำดับขั้น ทำงานเป็นขั้นเป็นตอน ต้องใช้เวลาพอสมควร สิ่งที่น่าชื่นชมคือเจ้าหน้าที่ทุ่มเททำงานเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของประชาชน จึงทำให้มีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บจำนวนมากขอบคุณแพทย์ พยาบาล และทุกคนที่ช่วยบริจาคโลหิต ทุกคนต้องมีบทเรียน ไม่ว่าจะทหาร ตำรวจ หรือตัวผม รัฐบาลจะดูแลทุกคนในการเยียวยาและการทำพิธีกรรมตามศาสนา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง ด่วน! วิสามัญฆาตกรรมมือกราดยิงโคราช เสียชีวิต 20 คน

มีผู้เสียชีวิต 27 คน บาดเจ็บ 57 คน 

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ขอให้สื่อนำเสนอข่าวอย่างถูกต้อง พร้อมระบุว่าต่อไปจะต้องเผชิญเหตุการณ์ด้วยความร่วมมือจากภาครัฐ ประชาชนและทุกภาคส่วน โดยยืนยันผู้เสียชีวิต 27 คน รวมผู้ก่อเหตุ บาดเจ็บ 57 คน ในจำนวนนี้ต้องผ่าตัด 12 คน และกลับบ้านแล้ว 25 คน สาเหตุในการก่อเหตุครั้งนี้ มาจากปัญหาส่วนตัว และไม่มีใครคิดว่าสถานการณ์จะรุนแรงขึ้น ตอนนี้ต้องดูเรื่องสุขภาพจิต และเข้าถึงใจให้ได้ เพราะจากเหตุการณ์นี้ไม่มีใครรู้และเดิมไม่เคยเลวร้าย แต่วันนี้เขาทำเหตุการณ์ที่เลวร้ายที่สุดแล้ว อย่ากล่าวโทษว่าทหาร-ตำรวจทำอะไรก็ผิดหมด

ทั้งนี้ยังยืนยันว่า ปกติการเบิกจ่ายอาวุธไม่สามารถนำออกมาได้ง่ายๆ แต่มีการปล้นปืนจากเจ้าหน้าที่ และยิงเจ้าหน้าที่

ยืนยันว่ามาตรการดูแลอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพไม่ได้หละหลวม ทุกอย่างมีขั้นตอน ไม่เช่นนั้นกองทัพคงอยู่ไม่ได้เป็นร้อยปี

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทำไมถึงตัดสินใจวิสามัญฆาตกรรม นายกรัฐมนตรี ถึงกับอุทานเสียงดัง เฮ้ย ตัดสินใจว่าเขาปะทะกันอยู่ ต้องยิงสวนกันให้สงบ แล้วจะปล่อยให้ยิงสวนมาหรืออย่างไร มีเจ้าหน้าที่ตายหลายคน ใครจะอยากไปตายโดยกระสุน มีคนอยู่ในนั้น 50 กว่าคนถ้าทำอะไรโผงผางไปจะมีปัญหา 

โดยขณะนี้เจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน เข้าเก็บพยานหลักฐานหน้าห้างเทอร์มอล 21 โดยแบ่งกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ชุดตรวจสอบภายในห้างและนอกห้างจุดเกิดเหตุ ซึ่งล่าสุดเวลา 12.19 น.เจ้าหน้าที่เริ่มนำรถกู้ภัย 5 คัน เคลื่อนเข้าไปบริเวณหลังห้าง เพื่อนำร่างผู้เสียชีวิตออกจากจุดเกิดเหตุ

 

ยัน จนท.ทำเต็มที่ ต้องรักษาชีวิตนับร้อย

ต่อมาเวลา 13.30 น. นายกรัฐมนตรีกล่าวภายฟังบรรยายสรุปและให้กำลังครอบครัวผู้สูญเสียเหตุกราดยิง จ.นครราชสีมา ว่า ได้ให้คำแนะนำหลายประเด็น โดยเฉพาะมาตรการดูแลและป้องกันเหตุรุนแรงว่าดำเนินการครบถ้วนแล้วหรือไม่ หากไม่เพียงพอก็ต้องเสริมมาตรการดูแล เพราะไม่เคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ในไทยมาก่อน

ส่วนกรณีการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่ต้องระวังเป็นอย่างมากเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสีย ซึ่งครั้งนี้เจ้าหน้าที่เสียสละชีวิตหลายนาย เพราะไม่ได้ใช้อาวุธเต็มที่ เนื่องจากมีประชาชนอยู่ภายในที่เกิดเหตุ อาคารมีซอกมุมหลบซ่อนได้ จนกระทั่งมีการปะทะกัน

เราอย่ามามองว่าเราทำงานไม่ดี ไม่เก่ง หรือใช้เวลาเนิ่นนาน เพราะต้องสงวนชีวิตคนเป็นร้อยที่อยู่ในอาคารนั้น

วอนสื่อนำเป็นบทเรียน

นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้กรมสุขภาพจิตดูแลครอบครัวผู้บาดเจ็บ และเสียชีวิต รวมทั้ง พม. ดูแลเรื่องแรงงานที่ได้รับผลกระทบ ยืนยันว่ามีมาตรฐานในการดูแลอยู่แล้ว เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นบทเรียนครั้งสำคัญของรัฐบาลและทุกภาคส่วน และเสียใจอย่างสุดซึ้งกับผู้สูญเสีย ซึ่งทุกภาคส่วน บุคลากรทางการแพทย์ ทำหน้าที่ได้เป็นอย่างดี ส่วนขอเสนอให้ให้ปฏิรูปสื่อ ส่วนตัวทำอะไรไม่ได้มาก และอยากขอความร่วมมือสื่องดเปิดเผยข้อมูลปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ พร้อมยกตัวอย่างเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า ผู้ก่อเหตุติดตามปฏิบัติการและการเตรียมตัวของเจ้าหน้าที่จนสามารถไหวตัวทัน เนื่องจากมีการเผยแพร่ในสื่อบางสำนัก จึงขอให้สื่อนำไปเป็นบทเรียนด้วย

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ย้อนเวลา 13 ชั่วโมงก่อน ชายคนหนึ่งทำอะไรในโคราช

"นายกรัฐมนตรี" เยี่ยมให้กำลังใจ จนท.-ประชาชนเหตุกราดยิง

เลื่อน 7 ขั้น 5 ชั้นยศ "ร.ต.อ.ตระกูล" พลีชีพเหตุกราดยิงโคราช

 

 

 

 

กลับขึ้นด้านบน