"วิชา" พบพิรุธสำนวนคดีบอส-พยานกดดันห่วงความปลอดภัย

อาชญากรรม
18 ส.ค. 63
19:47
1,133
Logo Thai PBS
"วิชา" พบพิรุธสำนวนคดีบอส-พยานกดดันห่วงความปลอดภัย
"วิชา" เรียกพ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ปมเปลี่ยนความเร็วรถคดีบอส อยู่วิทยา ชนตำรวจเสียชีวิต ระบุเป็นพยานสำคัญหลังยืนยันวันที่สอบสวน26 ก.พ.59 ไม่ใช่ 2 มี.ค.59 ขณะที่พบความผิดปกติในสำนวนคดี เตรียมเรียกอดีตผบ.ตร.เข้าชี้แจง 20 ส.ค.นี้

วันนี้ (18 ส.ค.2563) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ แตงจั่น ตำรวจพิสูจน์หลักฐานคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนความเห็นเรื่องความเร็วรถของนายวรยุทธ เดินทางเข้าชี้แจงต่อ ศาสตราจารย์พิเศษวิชา มหาคุณ ประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายกรณีคำสั่งไม่ฟ้องคดีอาญาที่อยู่ในความสนใจของประชาชน โดยพ.ต.อ.ธนสิทธิ ใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการให้ถ้อยคำกับคณะทำงานสอบสวน และปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน และพูดคล้ายๆ กับก่อนหน้านี้ว่า มีแรงกดดันให้เปลี่ยนความเร็วรถ ขณะนี้เริ่มกังวลถึงความปลอดภัย

ขณะที่ศาสตราจารย์พิเศษวิชา กล่าวว่า พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ถือเป็นพยานที่มีน้ำหนักทำให้อัยการสูงสุด สั่งไม่ฟ้องในเรื่องการเปลี่ยนแปลงความเร็วรถจาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 79 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งพ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ระบุถึงกรณีนายสายประสิทธิ์ เกิดนิยม นักวิชาการที่มาให้ความเห็นเรื่องความเร็วรถว่า เบื้องต้นเชื่อถือข้อมูล แต่เมื่อกลับมาทบทวน และเชื่อว่าไม่ถูกต้องจึงพยายามเปลี่ยนแปลงข้อมูลความเร็วรถกลับไปอยู่ที่ 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแล้ว แต่ไม่เป็นผล

อ่านข่าวเพิ่ม เปิดชื่อ “ผู้บังคับบัญชาฯ” ในเอกสารชี้แจง กมธ.คดีบอส

เรียกพล.ต.อ.สมยศ ชี้แจง 20 ส.ค.นี้ 

ศาตราจารย์พิเศษวิชา ระบุว่า ข้อมูลจากพ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ยืนยันว่าให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนเพียงครั้งเดียว คือวันที่ 26 ก.พ.59 และยืนยันว่าไม่ได้เข้าให้ข้อมูลกับเจ้าพนักงานสอบสวนในวันที่ 2 มี.ค.59 ตามที่ถูกกล่าวอ้าง และไม่ทราบว่านายสายประสิทธิ์ เข้ามาได้อย่างไร ทราบเพียงเป็นผู้ทำข้อมูลในคดีเสี่ยชูวงษ์ จึงทำให้เชื่อถือในข้อมูล เพราะเคยพิสูจน์ในเรื่องลักษณะนี้ แต่เนื่องจากว่ามันเร็วมาก และถูกดดันทั้งวัน ถ้ามีเวลาทบทวนจะดีกว่านี้ เขาบอกว่าถึงจะให้ความเห็นไปแล้ว แต่ก็ได้ทบทวนกับคณะทำงานไป 

จะเห็นว่าที่นายสายประสิทธ์ คำนวณไว้น่าจะไม่ถูกต้อง จึงได้บอกผู้บังคับบัญชาว่าขอเปลี่ยนคำให้การ และโทรหาพ.ต.อ.วีรดล ทับทิมดี แต่ทางพ.ต.ท.วีรดล กำลังโดนคดีเสี่ยรถเบนซ์ เลยสับสนไม่อยากทำอะไร เลยบอกว่าจบแล้ว แต่ทุกอย่างความจริงยังไม่จบ สามารถส่งให้ห้อัยการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำได้

นอกจากนี้ พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ ยังมีการอ้างอิงชื่อพล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่ามีความเชื่อมโยงในกรณีการพานายสายประสิทธิ์ เข้าให้ข้อมูลเรื่องความเร็วรถ จึงจะเชิญพล.ต.อ.สมยศ มาให้ชี้แจงในวันที่ 20 ส.ค.นี้

พบความผิดปกติสำนวนคดีเท็จ

ศาสตราจารย์พิเศษวิชา กล่าวถึงการเข้าให้ข้อเท็จจริงของพล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ว่า เจ้าตัวได้ชี้แจงเรื่องการมอบอำนาจว่า เป็นไปตามระบบคำสั่งเป็นเด็ดขาดไม่รับคืน และที่ไม่เห็นแย้งอัยการเพราะไม่มีข้อมูลใดผิดปกติ แต่ยอมรับว่าเพิ่งทราบว่ามีการกดดัน พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ เมื่อวานนี้(17 ส.ค.)จากสื่อ ถ้ารู้ก่อนหน้านี้ว่ามีการกดดัน และทำสำนวนอันเป็นเท็จ จะไม่ยอมหรอก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คณะกรรมการจะต้องนำไปพิจารณากระบวนการทำงานของตำรวจต่อไป ขณะเดียวกันก็ได้มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมไปดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินของบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในคดีนี้

เมื่อสอบเสร็จสิ้นทั้งหมดแล้วจะมีการสรุปว่ามีคนบกพร่อง กระทำผิดตาม ม.157 กี่คน แต่อย่าไปถึงขั้นนำเสนอว่า ไล่ออกจากราชการ เอาเป็นว่าตอนนี้พบมีความผิดปกติ

อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (19 ส.ค.) คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เชิญผู้เกี่ยวข้องในการทำสำนวนคดีบอสเข้าชี้แจง ทั้งพลตำรวจเอกสมยศ และนายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา รวมถึงพล.ต.อ.มนู เมฆหมอก พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ และพ.ต.อ.วีรดล เข้าชี้แจงต่อกรรมาธิการ

อ่านข่าวเพิ่ม มติคณะกรรมการอัยการ ไม่ตั้งคกก.สอบวินัย "เนตร นาคสุข"

ตำรวจขอเลื่อนส่งสำนวนอัยการ

ด้านพล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง คดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา เปิดเผยว่า วันนี้ครบกำหนด 7 วัน ที่คณะกรรมการฯ ขอขยายเวลาตรวจสอบ ตำรวจที่พบข้อบกพร่อง ในการทำสำนวนคดีนายวรยุทธ หลังจากนี้จะส่งรายละเอียดทั้งรายชื่อ ตำแหน่ง ข้อหา ให้พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.พิจารณา ตั้งกรรมการสอบสวนวินัย

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ระบุ ตำรวจบางคนทำผิดหลายอย่าง ยอมรับว่า มีความซ้ำซ้อน บางคนแม้จะถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดไปแล้ว แต่ยังมาทำผิดซ้ำอีก เมื่อคณะกรรมการฯ ตรวจสอบพบความผิดที่ยังไม่ได้ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.พิจารณา จึงต้องรวบรวมให้ครบถ้วน รวมถึง เอกสารหลักฐาน ที่ปรากฎข้อเท็จจริงใหม่ ที่จะต้องส่งให้อัยการสูงสุด ก็ต้องดำเนินการอย่างรอบเช่นกัน

ขณะที่พ.ต.ท.ธนาวุฒิ สงวนสุข รองผู้กำกับการ สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ ระบุว่า กรณีที่พนักงานอัยการสูงสุด ให้ตำรวจสอบเพิ่มเติมใน 2 ประเด็นสำคัญ คือ การตรวจวัดความเร็วรถ และการแจ้งข้อหาเพิ่ม กรณีพบสารเสพติดประเภท 2 หรือ โคเคนในร่างกาย ซึ่งเพิ่งได้เอกสาร เมื่อวานนี้ คาดว่า ไม่สามารถนัดสอบพยาน รวบรวมหลักฐาน และสรุปผลส่งให้พนักงานอัยการ ได้ทันตามกรอบระยะเวลา ที่กำหนดในวันที่ 20 ส.ค.นี้ จึงจะทำเรื่องขอขยายเวลาออกไปก่อน และยืนยันการขยายเวลาไม่ได้กระทบต่อการสืบสวนสอบสวนคดี

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

"ธนสิทธิ์" อ้างตร.ระดับสูงกดดันกลับลำความเร็วรถ "คดีบอส"

ตร.แถลงผลสอบคดีบอส “รอง ผบช.-ผกก.” เอี่ยวผิดอีก 14 คน

"วิชา"ตั้งคณะทำงาน 5 ชุดสางคดี "บอส อยู่วิทยา"

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง