“วาฬ-ช้าง-เต่า-พะยูน” สูญนับร้อยชีวิต

สิ่งแวดล้อม
2 ม.ค. 63
12:22
1,278
Logo Thai PBS
“วาฬ-ช้าง-เต่า-พะยูน” สูญนับร้อยชีวิต
ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ประเทศไทยสูญเสียสัตว์ป่า สัตว์ทะเล มากมายหลายชนิดและจำนวนมาก โดยเฉพาะสัตว์ตัวโตอย่าง ช้าง วาฬบรูด้า พะยูน เต่าทะเล ทั้งที่ตายเอง กับถูกมนุษย์ทำให้ตาย สร้างความบอบช้ำให้กับธรรมชาติจนกลายเป็นความสูญเสีย

“มาเรียม” กระตุกสำนึกรักทะเล

กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) แจ้งว่า ตลอดปีนี้ “พะยูน” ตายไปแล้ว 23 ตัว ตัวเลขดังกล่าว ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดี คณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า มากที่สุดในรอบ 20 ปี นับตั้งแต่ปี 2539 ที่พบพะยูนตายมากถึง 24 ตัว

การสูญเสียพะยูนมากผิดปกติ อาจส่งผลต่อจำนวนของพะยูนในอนาคต แต่ที่สร้างความทรงจำและสะเทือนใจมากที่สุดในปี 2562 ก็คือ “พะยูนมาเรียม” ที่พลัดหลงแม่มาเกยตื้นบริเวณอ่าวทึง ต.อ่าวนาง อ.เมือง จ.กระบี่ ในเดือน เม.ย.

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช


แม้เจ้าหน้าที่จะพยายามส่งมาเรียมกลับสู่ท้องทะเลครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ก็ไม่สำเร็จ เจ้าหน้าที่ตัดสินใจเคลื่อนย้ายมาเรียมไปอนุบาลในพื้นที่ธรรมชาติ ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าหมู่เกาะลิบง จ.ตรัง

ด้วยความน่ารักและขี้อ้อน ทำให้มาเรียมกลายเป็นขวัญใจคนไทยเกือบทั้งประเทศที่เฝ้าติดตามผ่านกล้อง CCTV

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

พบซากขยะเต็มท้อง

กว่า 4 เดือนที่มาเรียมฝึกใช้ชีวิตในทะเลเปิด ภายใต้การดูแลของทีมสัตวแพทย์ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครที่คอยป้อนนม สอนกินหญ้าทะเล และพาว่ายน้ำกับเรือแม่ส้มในทุกๆ วัน หวังปรับพฤติกรรมให้เข้ากับธรรมชาติ กระทั่งมาเรียมเจอพะยูนตัวโตเต็มวัยเข้ามาคุกคาม จนทำให้มีภาวะเครียด เจ็บป่วย และจากไปในเดือน ส.ค.

ผลการตรวจซากมาเรียม พบเศษถุงพลาสติกหลายชิ้นในทางเดินอาหาร ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้ช็อกตายในที่สุด แต่การตายของมาเรียมไม่สูญเปล่า กลับปลุกกระแสให้สังคมเห็นความสำคัญของปัญหาขยะทะเลที่ต้องหาทางแก้ไขอย่างจริงจัง

อ่านข่าว : ความตายสีเทา 5 ชีวิต “พะยูน” กระบี่-ตรัง 
อ่านข่าว : เศร้า! มาเรียมลูกพะยูนขวัญใจตาย “ช็อก-เจอถุงพลาสติก” 
อ่านข่าว : 114 วัน "มาเรียม" ทูตสันถวไมตรีแห่งท้องทะเลไทย 

 

"วาฬบรูด้า" สัตว์ทะเลอีกชนิด ที่จบชีวิตลงในทะเลไทยมากถึง 3 ตัว ในปีเดียว แม้ล่าสุดมันได้รับการประกาศให้เป็นสัตว์ป่าสงวนของไทย ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งประเมินว่า ในทะเลไทยมีพวกมันเพียง 50-70 ตัว

ภาพ : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ภาพ : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ภาพ : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง


“เจ้าปิ่น” วาฬบรูด้าตัวเมีย อายุประมาณ 2 ปี ลำตัวยาว 10.5 เมตร พบครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.2560 ผ่านมาเพียง 2 ปี พบมันตายในทะเลอ่าวไทยตอนบน บริเวณบ้านแหลม จ.เพชรบุรี เมื่อวันที่ 28 พ.ค.

ผลตรวจพบรอยอวนบาดตามลำตัวหลายแห่ง และกระแทกของแข็งไม่มีคมอย่างรุนแรง แต่ไม่พบขยะหรือเศษพลาสติกในท้อง สัตวแพทย์สันนิษฐานว่า เจ้าปิ่นน่าจะเข้ามาหากินและโชคร้ายติดอวนจากเรือประมง จนจมน้ำตาย

ส่วนวาฬอีก 2 ตัว ตายเมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ตัวแรกเป็นวาฬตัวผู้ ความยาว 8.30 เมตร พบบริเวณป่าโกงกาง อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ สภาพซากเน่า ส่วนกะโหลกหายไป สรุปสาเหตุการตายไม่ได้

และอีกตัวก็เป็นเป็นตัวผู้ ความยาว 10.8 เมตร พบที่ทะเล จ.สุราษฎร์ธานี สภาพซากสมบูรณ์ แต่ส่วนหัวและหางพบรอยช้ำ คาดว่าอาจถูกอวนประมง หรือกะะแทกของแข็ง แต่ก็ยังไม่สามารถระบุสาเหตุตายได้

ภาพ : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ภาพ : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง

ภาพ : กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง


ยังนับว่าโชคดีอยู่บ้าง ปลายปี 2562 เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบนฝั่งตะวันตก พบวาฬบรูด้าคู่แม่ลูก เข้ามาหากินบริเวณชายฝั่ง ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม ตรวจสอบอัตลักษณ์จากภาพถ่าย พบว่าเป็น “แม่วันดี” และลูกน้อยตัวใหม่ โดยนับเป็นลูกตัวที่ 3 ของแม่วันดี

อ่านข่าว : ข่าวดี! วาฬบรูด้า "แม่วันดี" ออกลูกเพิ่มอีก 1 ตัว  
อ่านข่าว : ทช.สรุป "เจ้าปิ่น" วาฬบรูด้าติดอวนจมน้ำตาย-ไม่พบพลาสติก 
อ่านข่าว : ความตายของ "วาฬบรูด้า" ในท้องทะเลไทย 

“เต่าทะเล” ก็ตายลงมากเช่นกัน โดยข้อมูลจากศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล กองทัพเรือ พบว่า เพียง 3 เดือน (พ.ค.-ก.ค.2562) พบเต่าเกยตื้นตายและยังมีชีวิต รวม 10 ตัว บางตัวติดเครื่องมือประมง บางตัวพบขยะพลาสติดในระบบทางเดินอาหาร และบางตัวป่วยตายธรรมชาติ

ล่วงมาถึงปลายปีสถานการณ์ไม่ดีขึ้น พบว่ามีเต่าทะเลตายเพิ่มอีกหลายตัว ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ อ้างอิงการรายงานสัตว์ทะเลเกยตื้นของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ว่า ในช่วงเวลาเพียง 2 วัน (7-8 ธ.ค.2562) มีเต่าเกยตื้นตายมากถึง 13 ตัว เกือบทั้งหมดตายเพราะขยะทะเล


แม้ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการว่า เต่าทะเลเกยตื้นตายในปี 2562 จริงๆ มีจำนวนเท่าไหร่กันแน่ แต่ภาพรวมสถานการณ์ตลอดทั้งปี พอจะประเมินได้ว่ามีมากกว่า 400 ตัว

อ่านข่าว : วิกฤต! ขยะฆ่าเต่าทะเลหายาก 3 เดือนตาย 4 ตัว 
อ่านข่าว : 3 วัน ทช.รับแจ้งเต่าทะเลเกยตื้น 19 ตัว 

ไม่เพียงแต่ทะเลที่ต้องสูญเสียพะยูน วาฬ และเต่า ป่าก็สูญเสีย “ช้าง” ไปไม่น้อยเหมือนกัน หากนับตั้งแต่เดือน ม.ค. - ต.ค.2562 มีช้างป่าตายไปมากถึง 27 ตัว ทั้งตกน้ำตก อุบัติเหตุ ถูกล่า ถูกไฟฟ้าช็อต ฯลฯ

ปิดตำนาน “ด้วน ด่านลอย” ขาใหญ่เขาอ่างฤาไน

“ด้วน ด่านลอย” ช้างป่าขาใหญ่ บนถนนหมายเลข 3076 ที่ตัดเลียบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤๅไน จ.ฉะเชิงเทรา คลิปของมันแพร่กระจายไปทั่ว ด้วยภาพรถบรรทุกจอดกลางถนน ให้มันคว้าอ้อยมากินอย่างพอใจ ก่อนจะปล่อยให้ผ่านไป

มีคนไปพบด้วนนอนอยู่กลางป่าในวันที่ 18 มี.ค. ตรวจตามลำตัวพบบาดแผลที่โคนหาง คาดว่าเกิดการอักเสบอย่างหนัก จนกระดูกโคนหางหลุดออกมา สัตวแพทย์จึงลงมือรักษา พบว่ามีแผลติดเชื้ออย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ได้ติดปลอกคอสัญญาณดาวเทียมเพื่อติดตามอาการ แต่หลังจากนั้นเพียง 3 วัน ด้วนก็จากไป

ล่วงมา 6 เดือนเศษ บนเส้นทางหากินของช้างป่าเขาใหญ่ น้ำตกเหวนรกคร่าช้างป่าไปมากถึง 11 ตัว นับว่ามากที่สุดที่เราเสียช้างในคราวเดียวกันของปีนี้

เข้าวันที่ 5 ต.ค. เจ้าหน้าที่พบซากช้างลอยอยู่ 6 ตัว นั่นก็นับว่ามากแล้ว ผ่านไปวันเดียว กลับพบว่ามีเพิ่มอีก 5 ตัว

อ่านข่าว : 10 เดือน สูญเสียแล้ว 27 ช้างป่า 
อ่านข่าว : ปิดตำนาน "ด้วนด่านลอย" ช้างป่าเขาอ่างฤๅไน 
อ่านข่าว : สลด! เจอซากช้างเขาใหญ่ตกเหวนรกเพิ่ม 5 ตัว รวมตาย 11 ตัว 

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ภาพ : กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช

ขยะเหตุตายของสัตว์ป่าใกล้คน

การตายตามธรรมชาติของสัตว์ป่า สัตว์ทะเล อาจเป็นเหตุสุดวิสัยและเข้าใจได้ แต่สิ่งที่เป็นสาเหตุสำคัญในรอบ 1-2 ปีที่ผ่านมาก็คือ “ขยะ”

โดยเฉพาะสัตว์ป่าที่เข้ามาอยู่ใกล้คน เช่น ในอุทยานแห่งชาติที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว กวางหลายตัวตายลงเพราะขยะเต็มท้อง

ภาพ : สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 แพร่

ภาพ : สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 แพร่

ภาพ : สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 แพร่


“กวางป่า” ที่ตายในอุทยานแห่งชาติขุนสถาน อ.นาน้อย จ.น่าน พบขยะในท้องมากถึง 7 กิโลกรัม ส่วนใหญ่เป็นพลาสติกอย่าง ซองกาแฟ ซองบะหมี่สำเร็จรูป แม้แต่กางเกงชั้นใน

หลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศมาตรการรณรงค์ ลด เลิก ใช้ถุงพลาสติก ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 รวมถึงให้นักท่องเที่ยวที่พกถุงขยะ และนำออกมาทิ้งนอกพื้นที่ด้วย

อ่านข่าว : สะเทือนใจ! กวางป่าตายพบขยะเต็มท้อง 
อ่านข่าว : ตะลึง ! ผ่าท้องกวางป่าตายเจอสารพัดขยะ 7 กก. 
อ่านข่าว : นักท่องเที่ยวต้องรู้ 1 ม.ค.63 ห้ามถุงพลาสติก-โฟมเข้าอุทยาน 



 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง