ไร้สาระสำคัญ! ติงรายงานแก้รธน. 400 หน้าแค่ซื้อเวลารัฐบาล

ไร้สาระสำคัญ! ติงรายงานแก้รธน. 400 หน้าแค่ซื้อเวลารัฐบาล

ไร้สาระสำคัญ! ติงรายงานแก้รธน. 400 หน้าแค่ซื้อเวลารัฐบาล

รูปข่าว : ไร้สาระสำคัญ! ติงรายงานแก้รธน. 400 หน้าแค่ซื้อเวลารัฐบาล

ฝ่ายค้านติงรายงานฉบับกมธ.แก้ไขร่างรัฐธรรมนูญ 400 หน้าไม่มีสาระสำคัญ ไม่ชี้ทางออกให้ประชาชน ระบุเสียเงิน เสียเวลาแค่เตะถ่วงซื้อเวลาให้รัฐบาล ผิดหวังโยนให้สภาฯตัดสินใจ

วันนี้ (17 พ.ย.2563) เมื่อเวลา 11.10 น.ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปรายถึงรายงานของคณะกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญที่เสนอในสภาว่า ไม่มีสาระสำคัญเพื่อให้สมาชิกรัฐสภาตัดสินใจ เป็นเพียงการรวบรวมความคิดเห็นจากแต่ละคนเท่านั้น ไม่มีแม้แต่ข้อสังเกตที่เป็นประโยชน์ จึงผิดหวังกับบทสรุปของรายงานที่สรุปมาความยาว 400 หน้าไม่มีสาระสำคัญ 

กลับมองไม่เห็นสาระสำคัญ และไม่ชี้ว่าจะออกในทิศทางใด เสียทั้งเวลา เสียทั้งงบ และเสียความรู้สึกของพี่น้องเพราะมองว่าเป็นการซื้อเวลา 

นายประเสริฐ กล่าวอีกว่า การพิจารณาทั้ง 6 ร่าง ซึ่ง 5 ร่างเป็นของฝ่ายค้าน และอีก 1 ร่างเป็นของรัฐบาล ใช้เวลาพิจารณาในการส่ง 56 วันมีการประชุม 9 ครั้ง ซึ่งได้ดูรายละเอียดจากรายงานกว่า 400 หน้ามี 2-3 ประเด็นคือ พิจารณาว่าร่างทั้ง 6 ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ และร่างต้องจัดทำประชามติหรอไม่ และกำหนดวิธีการไม่ให้ ส.ส.ร. เพื่อไม่ให้แก้ไขในรัฐธรรมนูญ หมวดที่ 1 และ 2 นอกจากนี้รายงานภาคผนวกที่นำประเด็นที่สมาชิกอภิปรายมาบันทึกในรายงานนี้ด้วย เพื่อให้มีหลายหน้า

นายประเสริฐ ระบุ กมธ.มี 2 แนวทางคือเห็นด้วย และไม่เห็นด้วย แต่ไม่ชี้ชัดว่าน้ำหนักที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะสุดท้ายก็ไม่มีการลงมติในการพิจารณาทำรายงานพิจารณาทั้ง 6 ร่างเสนอสภาฯ จึงเท่ากับว่าไม่ได้นำเสนออะไรเพิ่ม และเห็นว่ารายงานฉบับนี้แสดงความไม่จริงใจแก้รัฐธรรมนูญ และเตะถ่วงและทำให้แก้รัฐธรรมนูญยาก

อ่านข่าวเพิ่ม "เจ้าท่า" เตรียมแผนอพยพ VIP ออกจากสภาฯ


นายประเสริฐ ระบุว่า เหตุผลคือรัฐบาลเสนอ 1 ร่างเมื่อ 24 ก.ย.ที่ผ่านมายื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่แทนที่จะลงมติรับหลักการวาระ 1 แต่กลับส่งสัญญาณให้ตั้งคณะกมธ.พิจารณาก่อนรับหลักการ ซึ่งมีส.ส.และสว.ที่รัฐบาลควบคุมเสียงได้ ทำให้พรรคฝ่ายค้ายไม่เข้าร่วมสังฆกรรม แม้จะเชิญหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเข้าร่วม การกระทำแบบนี้ของรัฐบาลและถือว่าเป็นการแสดงละครตบตาประชาชน ย้อนแย้งเพราะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และพวกเดียวกันก็ยื่นร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะสมาชิกพรรคแกนนำตั้งรัฐบาล 72 คนคือ ส.ว.47 คนและส.ส. 25 คน และ 21 คนเป็นบุคคลที่เสนอให้แก้รัฐธรรมนูญ


เมื่อยื่นเองและตีความให้ร้องคัดค้าน แสดงว่าไม่จริงใจแก้ไขรัฐธรรมนูญ และตอกย้ำความจริงว่าเขาอยากอยู่ยาว เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้ออกแบบมาเพื่อคนบางกลุ่ม ไม่ใช่เพื่อคนไทยทั้งประเทศ จึงทำให้รัฐบาลไม่อยากแก้ และสุดท้ายรายงานฉบับนี้ไม่มีมติ และไม่มีคุณค่ามาประกอบการพิจารณา และโยนให้สมาชิกทั้งสภาฯ

ชี้ทางออกแก้รัฐธรรมนูญ-คลี่ปมขัดแย้ง 

ส่วนนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ตั้งข้อสังเกตว่าหากรับหลักการแก้ไขรัฐธรรมนูญร่างที่ 3 ถึง 6 เพื่อแก้ไขรายมาตราแล้ว จะตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ขึ้นมาเพื่ออะไรเพราะเมื่อจะตั้ง ส.ส.ร.แล้วก็ควรให้ทำงานเป็นอิสระ ไม่ควรแก้ไขรายมาตราเพื่อกำหนดความคิดเห็นของส.ส.ร. จึงไม่เห็นด้วยกับหลักการร่างที่ 3 ถึง 6 แต่ควรให้ ส.ส.ร.ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ โดยไม่แตะต้องหมวด 1 และ 2 และขอบคุณรัฐบาลที่ส่งสัญญาณให้แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้เป็นประชาธิปไตย

 

ด้านนพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ ส.ว.ระบุว่า ก่อนจะขานรับหลักการหรือไม่รับหลักการรัฐธรรมนูญ ขอตั้งคำถามว่ารัฐธรรมนูญ เป็นกฎหมายสูงสุด เป็นเครื่องมือหนึ่ง แม้จะไม่ใช่ทั้งหมดที่จะทำให้ประเทศดีขึ้น ถ้าทำให้ความเห็นต่างทางการเมืองได้รับการคลีคลายไปโดยสันติ ถ้ารรัฐธรรมนูญเขียนดี และมีความชัดเจนแต่อาจไม่ถูกใจทุกฝ่าย

ถ้าเขียนรัฐธรรมนูญชัดเจน การคลี่คลายในประเด็นจะไม่รุนแรง แต่หากเขียนไว้ไม่ชัดเจน ต่างฝ่ายใช้ตรรกะของตัวเอง ความขัดแย้งอาจเกิดขึ้นได้ และเห็นด้วยกับการปรับปรุงให้รัฐธรรมนูญมีผลดีกับประเทศ และนำไปใช้โดยความเห็นชอบของทุกฝ่าย และไม่เกิดอุบัติเหตุในข้อกฎหมาย ที่นำไปใช้ไม่ได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

คุมเข้มรอบพื้นที่รัฐสภา รับมือกลุ่มผู้ชุมนุม

เปิดประชุมสภาฯ ถก 7 ร่างรัฐธรรมนูญ

 

 

 

 

กลับขึ้นด้านบน