โยนสภา "ปลดล็อก" ปัญหาที่ดินใครถือครอง?

โยนสภา "ปลดล็อก" ปัญหาที่ดินใครถือครอง?

โยนสภา "ปลดล็อก" ปัญหาที่ดินใครถือครอง?

รูปข่าว : โยนสภา "ปลดล็อก" ปัญหาที่ดินใครถือครอง?

"สาทิตย์" จี้รัฐบาลแก้ปัญหาที่ดินช่วยชาวบ้าน และเกษตรกร ปลดล็อกที่ป่าทับที่ชาวบ้าน โดยใช้โครงการวันแมบ ด้านพล.อ.อนุพงษ์ โยนสภาแก้ที่ดินกระจุกตัวในมือของคนบางกลุ่ม

วันนี้ (19 ต.ค.2562) นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวตอนหนึ่งในประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 ว่า ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฉบับนี้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับความเหลื่อมล้ำที่ดินทำกิน ซึ่งเป็นแนวทางที่ถูกต้อง ที่ดินของไทย 320 ล้านไร่ ครึ่งหนึ่งเป็นพื้นที่ป่าร้อยกว่าล้านไร่ 45% เป็นที่ของกรมที่ดิน 40% ที่เหลือเป็นที่ สปก.และที่ราชพัสดุ แต่เมื่อดูพื้นที่ที่มีโฉนดที่ดิน มีอยู่เพียง 130 ล้านไร่ มีคนถือครอง 15.9 ล้านคน

ตัวเลขที่น่าตกใจคือมีคน 8 ล้านคนถือครองที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ หมายถึง 50% ของคนที่ถือครองที่ดิน โดยมีคน 837 คนถือครองที่ดินมากกว่า 1,000 ไร่

นายสาทิตย์ กล่าวว่า เมื่อดูตัวเลขการถือครองโฉนดที่ดินในไทย คน 10% ถือครอง 80% ของที่ดินทั้งหมด โดยมีที่ดินใช้ประโยชน์ทางการเกษตร 140 ล้านไร่ นอกภาคเกษตร 69 ล้านไร่ มีคนต้องการที่ดินทำกินเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และคนเข้าไปอยู่ในพื้นที่ของรัฐก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

จากตัวเลขโดยมีคนเข้าไปอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ถึง 184,710 คน หรือ 2.23 ล้านไร่คนไม่มีที่ดินทำกิน ไม่มีเอกสารสิทธิ มีคนเช่าที่ดินทำกิน 300,000 คน ยืมผู้อื่นทำกิน และไปรับจ้าง ถามว่ารัฐบาลที่ผ่านมาแก้อย่างไร ที่ผ่านมามีทั้งเรื่อง สปก.โฉนดชุมชน ร่วมกับเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน รวมถึงธนาคารที่ดิน และกฎหมายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง

แก้ปัญหาที่ดินในเขตป่า

สิ่งที่น่ากังวลของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี คือการออกกฎหมายนโยบายคณะกรรมการที่ดินแห่งชาติ โดยการอนุมัติหลักการจัดที่ดินทำกินในชุมชนแบบแปลงรวมกรรมสิทธิ์ รวมเป้าหมาย 2558-2563 แต่ผลการดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย หากเป็นเช่นนี้เรื่อยๆ อาจมีชาวบ้านบางคนต้องรอที่ดินอีกเป็นร้อยปี ในขณะที่ราคาที่ดินกำลังพุ่งสูงขึ้นทุกวัน

ข้อเสนอคือการแก้ไขความขัดแย้งเรื่องเขตป่าทับที่ชาวบ้าน มีปัญหาทุกจังหวัด ให้คนเข้าถึงแหล่งทุนเพื่อปรับปรุงใช้ประโยชน์ โดยหน่วยงานรัฐที่ดูแลที่ดินมี 8 กระทรวง 19 กรม ได้งบฯ ด้านการจัดการที่ดิน แต่เน้นด้านการสำรวจมากเกินไป

ควรเน้นการดูแลโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อไม่ให้ทำการเกษตรขาดทุน แล้วทิ้งที่ดินไปในที่สุด ขณะที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เน้นให้คนอยู่กับป่าเพิ่มขึ้น ซึ่งเดินมาถูกทางแล้ว

นายสาทิตย์ กล่าวอีกว่า การจัดสรรงบฯ ทั้งหมดด้านการสร้างความเสมอภาคทางสังคมอยู่ที่ 7.65 แสนล้านบาท แต่มีการจัดสรรงบฯ เพื่อที่ดินทำกินเพียง 2,500 ล้านบาท คิดเป็น 0.33% เท่านั้น แต่บางอย่างอาจไม่ได้วัดด้วยการใช้งบประมาณ ก็ต้องพูดคุยกันต่อไป

เบื้องต้นต้องเร่งแก้ปัญหาป่าทับที่ ที่ทับป่า โครงการ One Map ที่มีการจัดงบฯ ประชาพิจารณ์ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม และ คทช.ควรเพิ่มงบฯ การจัดการที่ดิน พร้อมเร่งรัดออก สปก. เพิ่มงบฯ ให้มีช่างรังวัดเพิ่มขึ้นเรื่องใหญ่อีกเรื่องคือ การออกโฉนดที่ดินของกรมที่ดิน ควรมีมากกว่าปีงบฯละ 25 จังหวัด และที่ของรัฐที่ให้เอกชนเช่าและหมดสัมปทานแล้ว ต้องเอาคืนมาจัดสรรใหม่ให้เกษตรกรรายย่อย

พร้อมทบทวน พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งที่ปลูกสร้าง จัดเก็บตามขนาดการถือครอง และมีมาตรการรองรับผลกระทบ การสูญเสียที่ดินจากโครงการ EEC

"พล.อ.อนุพงษ์"โยนสภาแก้ที่ดินกระจุกตัว

พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ชี้แจงว่า เรื่องกฎหมายที่ดิน โดยเฉพาะการถือครองที่ดิน ผมเป็นคนตัวน้อยๆ ไม่มีที่ มีแต่ที่บ้าน ท่านก็คงรู้ว่าผมอยู่ฝ่ายไหน ถ้าแก้ได้แต่จะถือว่าเป็นการเปลี่ยนประวัติศาสตร์ของไทยแน่นอน เป็นเรื่องที่ต้องโยนให้สภาฯ ช่วยกันทำ ถ้าทำได้ก็จะดี เพราะสภาฯ ที่ผ่านมาไม่เคยทำได้ ส่วนนี้ไม่ใช่เรื่องของคณะรัฐมนตรีและเรื่องของงบประมาณ

ปัญหาสำคัญคือ รัฐกับรัฐยังตีกันไม่จบ ที่ของรัฐยังทับกับที่เอกชนอีก 3 ล้านแปลงการจะเร่งก็ต้องเขียน One map ออกมาให้ได้ แต่ถ้าจบแล้วเราใช้ระบบดิจิทัลต่อไปที่ดินจะไม่คาดเคลื่อนอีก

 

 

เรื่อง คทช.ครึ่งหนึ่งของคนทั้งประเทศทำการเกษตร ส่วนใหญ่ไม่มีที่ดิน ทำให้หลายคนต้องบุกรุกที่ ตอนนี้ นายกรัฐมนตรี แก้ปัญหานี้ด้วยการตั้งคณะกรรมการเพื่อร่างกฎหมาย คทช. เพื่อหาที่ดินมา ทั้งที่ป่า ที่ดินสปก. ที่สาธารณะ ที่ของกรมธนารักษ์ ซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ ก่อนพิจารณาให้ประชาชน

เมื่อพิจารณาแล้วจะส่งเข้ามากระทรวงมหาดไทย จากนั้นกระทรวงมหาดไทย จะส่งคนลงพื้นที่ตรวจสอบ แต่ไม่ให้เอกสารสิทธิ โดยต้องดูช่องกฎหมาย เพื่อให้ดำเนินการอย่างถูกต้องตามหลักเกณฑ์ ส่วนที่ดินสาธารณะ ควรให้แค่ภาครัฐใช้ประโยชน์เท่านั้น เอกชนไม่ให้เด็ดขาด ส่วนเรื่อง EEC ได้รับเรื่องจากท่านไปแล้วและจะหาแนวทางต่อไป แต่หน้าที่หลักๆ ที่จะแก้ปัญหาก็ต้องทำร่วมกัน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เที่ยงนี้ "ฝ่ายค้าน" นัดถกรอบสุดท้ายก่อนลงมติ พ.รบ.งบฯ 63

3 วัน อภิปรายร่างงบฯ 63 "ใครพูดอะไร"

เฉลยแล้ว! ผังปริศนาในมือ "ประวิตร" ที่แท้ขบวนการค้ายาเสพติด

 

 

 

กลับขึ้นด้านบน